บุกจับแก็งยานรก กำลังขนล็อตใหญ่ข้ามโขง แต่ไหวตัวทันหนีรอด จนท.ยึดยามูลค่า 300 ล้าน

บึงกาฬกองกำลังสุรศักดิ์มนตรียึดยาบ้ายาไอซ์ยาเคค่ากว่า 300 ล้านบาท ริมน้ำโขง

วันที่ 8 ก.ย. เวลา 13.30 น. ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2106 ชุดเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ  เจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดล็อตใหญ่ในรอบเดือนกันยายน มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.ย. เวลา 02.00 น. ร.ท.บุญทัน นกกระโทก ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2106 ฉก.ทพ.21 อ.ปากคาด นำกำลังบูรณาการสนธิกำลังร่วมกับชุดการข่าวกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดปฏิบัติการข่าวกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,ตำรวจ สภ.รัตนวาปี, สน.เรือรัตนวาปี, ชรต.216 น.ค.และฝ่ายปกครองรัตนวาปี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ว่ามีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดชาวลาว จะเตรียมการนำยาเสพติด (ไม่ทราบชนิด/จำนวน) ลักลอบนำส่งข้ามให้เครือข่ายยาเสพติดชาวไทยในพื้นที่ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ.ตาลชุม ม.3 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จึงได้ทำการวางแผนบูรณาการกำลัง ทำการดักซุ่มคอยในบริเวณที่รับแจ้ง

กระทั่งเวลา 03.00 น. ได้ตรวจพบเรือกีบเพลา จำนวน 2 ลำ ได้ขับเข้าเทียบท่าฝั่งไทยและพบเห็น ชาย 4 คน กำลังทำการขนย้ายสิ่งของบางอย่างขึ้นฝั่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เพื่อทำการตรวจค้น เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่แล้วจึงได้พยายามหลบหนี โดยได้ขับเรือข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ เบื้องต้นปรากฎพบเป็นกระสอบสีดำ จำนวน 11 กระสอบ จึงนำมาตรวจสอบให้ละเอียดที่กองร้อยทหารพรานที่ 2106 พบว่าภายในมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 5 กระสอบ ประมาณ 1,700,000 เม็ด ,ยาไอซ์ จำนวน 5 กระสอบ ประมาณ 205 ก้อน/กก. และยาเคตามีน จำนวน 1 กระสอบ ประมาณ 57 ก้อน/กก.

พล.ต.บุญสิน พาดกลาง (ผบ.พล.ร.3) กล่าวว่า ของกลางล็อตนี้หากหลุดเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในของประเทศจะมีมูลค่าสูงกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะมอบของกลางให้ สภ.รัตนวาปี นำไปดำเนินการต่อไป ครั้งนี้ไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดแต่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนขยายผลหากลุ่มบุคคลหรือกลุ่มขบวนการที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดทั้งในพื้นที่จังหวัดหนองคายและบึงกาฬหลายครั้ง ซึ่งต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยกันสอดส่องดูแลเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและแรงงานต่างด้าว ตามแนวชายแดนด้วยดีเสมอมา