เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงภาพรวมสถานการณ์โควิดประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ 6,428 ราย, รวมป่วยสะสม 2,071,009 ราย, หายป่วยเพิ่ม 7,882 ราย, อยุ่ระหว่างรักษาตัว 89,821 ราย, อาการหนัก 1,595 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 382 ราย, เสียชีวิตเพิ่ม 49 ราย, ยอดเสียชีวิตสะสม 20,436 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่าจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดได้แก่ กรุงเทพฯ 815 ราย, สงขลา 457 ราย, นครศรีธรรมราช 438 ราย, ราชบุรี 289 ราย, สุราษฎร์ธานี 280 ราย, เชียงใหม่ 240 ราย, ปัตตานี 194 ราย, สมุทรปราการ 164 ราย, ชลบุรี 150 ราย, ยะลา 146 ราย
สำหรับจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิดในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-21 พ.ย. มีทั้งสิ้น 88,989,235 โด๊ส แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 46,718,014 ราย, เข็มที่ 2 จำนวน 39,202,716 ราย, เข็มที่ 3 จำนวน 3,068,505 ราย โดยตอนนี้มี 10 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ค่อนข้างต่ำ จึงต้องขอความร่วมมือช่วยกัน ต้องเร่งเครื่อง และต้องอาศัยความร่วมมือสถานประกอบการและประชาชน ได้แก่ นครพนม, หนองบัวลำภู, สกลนคร, กาฬสินธุ์, บึงกาฬ, ยโสธร, แม่ฮ่องสอน, สุรินทร์, ร้อยเอ็ด และสมุทรสงคราม
ในส่วนคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อนั้น มีงานบวช, งานกฐินที่ จ.ร้อยเอ็ด, งานศพในจ.กาญจนบุรีที่เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ 19 คน, งานศพที่ จ.อุดรธานี พบผลบวก 7 ราย ในแคมป์คนงานมีทั้งที่ จ.ขอนแก่น สระแก้ว ลำพูน และเชียงใหม่ ที่พบทั้งใน อ.แม่ริม และ อ.ดอยสะเก็ด ขณะที่การติดเชื้อในชุมชนยังเจออย่างต่อเนื่อง และคลัสเตอร์ในโรงเรียนพบที่ จ.อุบลราชธานีและสุราษฎร์ธานี ส่วนกรุงเทพฯ มีทั้งโรงงาน ตลาด และสถานประกอบการ.