เผยแพร่:
บึงกาฬ – กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีสนธิกำลังพลหน่วยงานเกี่ยวข้องบุกจับ 2 ผู้ต้องหาได้คารีสอร์ตชื่อดัง อ.ปากคาด ยึดของกลางยาบ้า 1,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท เผยหนึ่งใน 2 ผู้ต้องหาเป็นหญิงอายุแค่ 15 ปี ขณะที่ฝ่ายชายเป็นผู้ค้ารายใหญ่เครือข่ายพ่อค้ายาเสพติดฝั่งลาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (10 ก.ย.) ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2204 กรมทหารพรานที่ 22 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี อำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผบ.ฉก.ทพ.22 พ.อ.พูนสิน พาดกลาง รอง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, รอง ผบก.ตร.จ.บึงกาฬ, รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ, นายอดุล ประยูรสิทธิ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายเกษม พลศรี อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 132/2 ม.4 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร และ น.ส.ณัฐ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง
พร้อมยึดของกลางยาบ้าจำนวน 3 กระสอบ ประมาณ 1,000,000 เม็ด รถกระบะแค็บ มาสด้า บีที-50 สีดำ ทะเบียน 1 ฒศ 6495 กทม. 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สำหรับยาบ้าลอตนี้มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถ้าเข้าไปถึงกรุงเทพฯ จะมีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดย ร้อย.ทพ.2204 (ฉก.ทพ.22) บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) ได้รับแจ้งจากสายข่าวที่เชื่อถือว่าจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เพื่อเข้าสู่ตอนในประเทศ โดยใช้รถปิกอัพมาสด้าสีดำในการลำเลียง
พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผบ.ฉก.ทพ.22 จึงสั่งการให้ ร.อ.แก้ว งามเลิศ ผบ.ร้อย.ทพ.2204 พร้อมด้วยกำลังพล บูรณาการร่วมกับ สภ.ปากคาด, ตม.บึงกาฬ, นรข.บึงกาฬ, ฝ่ายปกครอง อ.ปากคาด วางแผนจัดกำลังจับกุม ต่อมาเวลา 18.00 น.ได้มีชายหญิงต่างพื้นที่ขับรถตามที่สายข่าวแจ้ง เข้ามาเปิดห้องพัก รีสอร์ทนัชชา และออกจากรีสอร์ตเวลา 23.00 น. ไปตามถนนเส้นหลัก 212 มุ่งหน้า จ.บึงกาฬ
หลังจากนั้นเวลา 01.30 น.( 9 ก.ย.) รถคันดังกล่าวกลับเข้ามาในรีสอร์ต เมื่อมาถึงห้องพักรีบเก็บสัมภาระขึ้นรถอย่างเร่งรีบเพื่อจะออกเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในรถพบสิ่งผิดกฎหมายและตรวจยึดจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งคู่พร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยผู้ต้องหาอ้างว่าได้รับค่าจ้าง 80,000 บาท ขนยาบ้าล็อตนี้ไปส่งให้เครือข่ายแถบชานเมืองกรุงเทพฯ
สำหรับนายเกษม หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมได้ครั้งนี้ถือเป็นหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญของพื้นที่ โดยจะสั่งการให้ลูกน้องที่มีหลายชุด ลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั้งกัญชาและยาบ้าที่นำเข้าจากฝั่งลาวไปพักไว้ในกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะลำเลียงไปส่งให้ลูกค้าในหลายจังหวัดของภาคใต้ และได้ลักลอบค้ายาเสพติดมานานแล้ว ก่อนที่จะถูกจับกุมได้ในที่สุด