ภูมิภาค
ผู้ว่าฯนครพนม ชวนผู้ร่วมงานนมัสการองค์พระธาตุพนม สะสมบุญเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง
วันจันทร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2566, 09.40 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ณ หอพระแก้วหน้าองค์พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หนึ่งในนโยบายการพัฒนาจังหวัดนครพนมนั้น คือ การดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยตั้งใจว่าในปีนี้จะให้ชาวนครพนมทุกคนได้ตรวจสุขภาพแบบละเอียดของตัวเองอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งพอทราบข่าวเกี่ยวกับนายแพทย์ อนิรุทธ์ นิรนาท หรือ หมอหมู ที่เป็นศัลยแพทย์มะเร็งวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านม และเป็นผู้ก่อตั้งเพจ “หมอหมูสู้มะเร็ง” เพื่อแบ่งปันความรู้ด้านมะเร็งที่ถูกต้องให้แก่ผู้ป่วยและคนทั่วไป จึงเป็นการส่งต่อความรู้และกำลังใจให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
โดย นายแพทย์ อนิรุทธ์ นิรนาท ได้มีโครงการ “รวมใจไทยต้านภัยมะเร็ง” เพื่อผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ โดยมูลนิธิหมอหมูสู้มะเร็ง และมีการทำกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อรับบริจาคในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่มาจังหวัดนครพนม ในช่วงนี้ที่มีงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ที่ประชาชนทั้งชาวไทย ชาวลาว และนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดให้มีการแถลงข่าวประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงโครงการดังกล่าวที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็งอย่างแท้จริง
นายแพทย์ อนิรุทธ์ นิรนาท เจ้าของโครงการกล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และคณะทุกท่านที่ได้ให้โอกาสประชาสัมพันธ์โครงการ ซึ่งจากการปฏิบัติหน้าที่แพทย์ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ทำให้ได้พบปัญหาในการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นโรคอันดับ 1 ของคนไทย ซึ่งมีผู้ป่วยปีละประมาณ 1.4 แสนราย และเสียชีวิต 8-9 หมื่นราย เป็นโรคที่พรากชีวิตคนเป็นอันดับ 1 และต่อเนื่องอย่างยาวนาน ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่กลับพบว่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“โดยในจำนวนนี้มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถึงแม้บางอย่างรัฐบาลจะให้เบิกค่ารักษาได้ แต่ก็มีบางอย่างที่เบิกไม่ได้ เช่น ค่าตรวจรักษา ค่าเดินทางของผู้ป่วยมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือค่าใช้จ่ายในการหาที่พักในช่วงที่ต้องฉายแสงที่ต้องพบแพทย์บ่อย ๆ ดังนั้นมูลนิธิจึงทำโครงการรวมใจไทยต้านภัยมะเร็ง เพื่อผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ขึ้นมา ซึ่งจะเป็นกิจกรรมปั่นจักรยานทั่วทั้งประเทศไทย โดยถือเอาฤกษ์มหามงคล คือวันที่ 5 ธันวาคมเ 2565 ป็นวันเริ่มต้นปั่น เพราะตั้งใจถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนนี้ก็ปั่นเก็บมาได้แล้ว 39 จังหวัด จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่ 40 ซึ่งตลอดมาก็มีทั้งผู้ที่มาร่วมกิจกรรมปั่นไปด้วยกัน และผู้ที่บริจาคเข้าร่วมโครงการ โดยมูลนิธิจะรวบรวมเงินทั้งหมดที่ได้ไปมอบให้ 9 โรงพยาบาลกระจายทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศถ้าเงินมีจำนวนมากพอ และจะไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นพร้อมทั้งให้โรงพยาบาลบริหารจัดการเงินส่วนนี้เองทั้งหมดตามเกณฑ์ที่เห็นว่าเหมาะสม” นายแพทย์ อนิรุทธ์ นิรนาท หรือหมอหมู กล่าว.
ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดีที่ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องทุกข์ทรมาน โดยจากการสอบถามโครงการนี้จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมีนาคม ดังนั้นจึงอยากขอเชิญชวนผู้ใจบุญที่มาร่วมงานนมัสการองค์พระธาตุพนม และประชาชนทั่วไปที่อยู่ทางบ้านทุกท่าน ได้ร่วมกันสนับสนุนโครงการนี้ให้บรรลุวัตถุประสงค์เป็นการสะสมบุญเพื่อผู้ป่วยมะเร็งร่วมกัน ถ้าใครสามารถมาร่วมปั่นได้ก็จะเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกคนได้เห็นถึงกิจกรรมดีๆ นี้ หรือถ้าใครไม่สะสวกจะบริจาคก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถบริจาคได้ทั้งแบบกล่องรับบริจาคเวลาที่หมอหมูไปปั่นตามจังหวัดนั้น ๆ หรือจะบริจาคผ่านเลขบัญชีมูลนิธิ หมอหมูสู้มะเร็งเพื่อโครงการรวมใจไทยต้านภัยมะเร็ง ธนาคารทหารไทยธนชาต 513-1-07940-1 ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยของจังหวัดนครพนมกิจกรรมดี ๆ จะมีการปั่นในวันพรุ่งนี้ 30 มกราคม เพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดมุกดาหารและจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า หลังจบการแถลงข่าว ปรากฏว่ามีนายสมชัย รอดแป้น อายุ 47 ปี เจ้าของธุรกิจรับซื้อน้ำยางพารา อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้พาครอบครัวมากราบนมัสการองค์พระธาตุพนม ได้แสดงเจตจำนงขอบริจาคเข้าโครงการเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท โดยเปิดเผยว่าพื้นเพเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ภรรยาเป็นชาว อ.ธาตุพนม ยืนฟังการแถลงข่าวแล้วรู้สึกว่าโครงการนี้มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็งมาก จึงขอบริจาคสมทบทุนดังกล่าว
นอกจากนี้คุณหมอหมูกล่าวเพิ่มเติมว่า การปั่นจักรยานเชิญชวนผู้บริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งในครั้งนี้ ไม่มีการกำหนดวันเวลาเหมือนการปั่นทั่วๆไป และไม่มีค่าสมัครแต่จะปั่นร่วมกับทีมงานแล้วประชาสัมพันธ์ไปด้วย ถ้ามีผู้ใจบุญก็มีกล่องรับบริจาคหย่อนใส่ลงไป หากมีผู้สนใจร่วมปั่นก็มีเสื้อ 1 ตัวโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยเมื่อออกจากพื้นที่จังหวัดนครพนม ก็จะปั่นไปต่อที่จังหวัดมุกดาหาร กาฬสินธุ์ ฯลฯ เมื่อถึงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ จะสรุปยอดเงินบริจาคมีจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นจะแบ่งมอบให้กับโรงพยาบาลรวม 9 แห่ง ซึ่งหลังมอบแล้วจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจำนวนเงินดังกล่าว การช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งจะอยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารโรงพยาบาลนั้นๆ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่