เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง ที่จังหวัดบึงกาฬ มีระดับสูงขึ้น ประกอบกับมีมวลน้ำเหนือไหลลงมาสมทบ โดยเช้าวันนี้ที่จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ วัดได้ 8.30 ม. สูงขึ้นจากวานนี้ 10 ซม. ตำกว่าระดับตลิ่ง 5.70 ม.(ตลิ่งสูง 14.0 ม.) ซึ่งถือว่าระดับน้ำสูงสุดในรอบปี 2565 ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านที่หาปลาในแม่น้ำโขง ทั้งชาวไทย และชาว สปป.ลาว ตลอดจนเรือแพขนานยนต์ ที่บรรทุกสินค้าข้ามไป-มา ระหว่าง ไทย-สปป.ลาว ได้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
และทางการ สปป.ลาว โดยแขวงไซยะบุลี ได้มีหนังสือแจ้งบรรดาเมืองไชยะบุลี เมืองปากลาย เมืองแก่นท้าว ที่อยู่เหนือเขื่อน และท้ายเขื่อน ให้ระวังน้ำขึ้นฉับพลัน เนื่องจากน้ำจากเขื่อนน้ำอู 1-7 มีปริมาณมาก และกำลังปล่อยน้ำไหลลงสู่เขื่อนไซยะบุรี และเขื่อนไซยะบุลีได้เพิ่มมาตรการฉุกเฉินรับมือกับสถานการณืน้ำขึ้นเป็นระดับ 2 จึงมีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำจากเขื่อน จึงแจ้งให้ผู้ที่อาศัยอยู่ริมน้ำ และเรือแพต่างๆ ให้เฝ้าระวังน้ำขึ้นอย่างใกล้ชิด และขนย้ายสิ่งของที่จำเป็น รวมถึงผลผลิตทางการเกษตร ไว้ในที่สูง และให้ติดตามข่าวสารจากทางเขื่อนไฟฟ้าไชยะบุลีอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้าน ปภ. ออกประกาศเตือน เน้นย้ำ 7 จังหวัดริมแม่น้ำโขง (เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี) เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน คาดจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีในอัตรา 9,000-10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ด้านท้ายเขื่อนมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 เมตร อย่างฉับพลัน ในระหว่างวันที่ 14-18 ส.ค.นี้ จึงขอเน้นย้ำให้จังหวัดเตรียมพร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ดังกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่