เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่สถานีเรือบึงกาฬ นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย นายวุฒิ เร่งประดุงทอง นายด่านศุลกากรหนองคาย นางนิภาวรรณ ใยบัวเทศ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ น.ท.การันต์ มินวงษ์ หน.สน.เรือ บึงกาฬ สภ.ปากคาด, ตม.บึงกาฬ, ตำรวจน้ำบึงกาฬ ตชด.244 และหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ แถลงข่าวการจับกุมนายสุทธิพงษ์ พิสัยพันธ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 8 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พร้อมของกลางรถเก๋ง ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น VIOS สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กฉ 3610 หนองคาย ที่ซุกซ่อนยาบ้า 600,000 เม็ดไว้กระโปรงด้านหลัง
นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 กล่าวว่า กรมศุลกากร ได้ร่วมกับ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย และหน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ และหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ หลังฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากรหนองคาย ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดประเภทยาบ้าจำนวนมาก จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยรถยนต์บริเวณพื้นที่ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เพื่อลำเลียงเข้าในเขตพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย จึงวางแผนจับกุม
กระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น VIOS สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กฉ 3610 หนองคาย ลักษณะตรงตามที่สายลับรายงาน วิ่งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 212 ในพื้นที่ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย มุ่งหน้าไปทาง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ขับรถยนต์ไล่ติดตามพร้อมกับแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อขอทำการตรวจสอบ แต่คนขับรถยนต์คันดังกล่าวได้ไหวตัวทันและไม่ยอมหยุดรถยนต์ พร้อมกับเร่งเครื่องขับรถหลบหนีไปตามถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 2095 (ปากคาด-โซ่พิสัย) จึงได้ทำการติดตามไล่ล่าเป็นระยะทางประมาณ 30 กม. กระทั่งมาถึงบริเวณ บ.ดงบัง ต.หนองยอง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ฯ จึงตัดสินใจยิงปืนใส่ล้อยางจำนวน 3 นัด และเบียดรถยนต์คันดังกล่าวลงข้างทาง จนสามารถควบคุมรถยนต์พร้อมคนขับรถยนต์เอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาภายหลังคือ นายสุทธิพงษ์ พิสัยพันธ์ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 8 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และเมื่อเปิดช่องเก็บสัมภาระด้านท้ายรถยนต์คันดังกล่าว พบกระสอบสีดำจำนวน 2 กระสอบ จึงแกะออกดูต่อหน้านายสุทธิพงษ์ พบว่าข้างในเป็นยาบ้า จึงจับกุมนำตัวมาขยายผลที่สถานีเรือบึงกาฬ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้นำยาบ้าทั้งหมดไปส่งต่อให้กับกลุ่มผู้ค้ายาบ้า อีกทอดหนึ่งที่จังหวัดอุดรธานี โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงิน 20,000 บาท จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมประสานงานกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เข้าตรวจสอบของกลางก่อนนำผู้ต้องหาส่งสถานีตำรวจภูธรปากคาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.