ห่างหายจากงานแสดงมานาน ล่าสุดนักแสดงหนุ่ม ‘อาร์ตี้’ ธนฉัตร ตุลยฉัตร ได้กลับมารับงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “The Lake-บึงกาฬ” โดยเจ้าตัวเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงงานแสดง พร้อมอัพเดตชีวิตหลังหันหลังให้วงการ ก่อนจะค้นพบตัวเองกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
กลับมาเล่นหนังในรอบกี่ปี?
อาร์ตี้ – “ก็หลายปีครับ หนังเรื่องนี้ถ่าย 5 ปีที่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้เล่นมา 2-3 ปีได้ ซึ่งคาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ผมรับบทเก่ง เป็นชาวประมง อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด ตรงข้ามกับผมที่พูดเยอะพูดมาก ซึ่งเก่งจะอยู่กับครอบครัว มีพี่สาวคือพี่ออม สุชาร์ มีน้องสาวคือน้องวันใหม่ (ฉัตรบริรักษ์) เรื่องย่อคร่าวๆ คือวันใหม่ไปเจอไข่แล้วเอากลับมาที่บ้าน พี่สาวก็ไล่ให้เอากลับไปไว้ที่เดิม สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย”
ต้องเล่นกับหุ่น Animatronic ที่สร้างขึ้นมาเป็นสัตว์ประหลาด?
อาร์ตี้ – “เล่นกับหุ่นก็ยังดีหน่อยมันอยู่ข้างหน้าเรา ไม่ได้ใช้จินตนาการมาก ตัวจริงมันใหญ่มาก เขาสร้างขึ้นมา เดินทางมาจากจีนเลย ประมาณ 9-10 เมตร สูงกว่าบ้าน 2 ชั้นอีก หน้าอกสูงเลย รถสิบล้อ ถ้าประกอบร่างแล้วสูงจริงๆ ครับ”
เล่นแนวดราม่า ฉีกจากเดิมตลกเฮฮา ท้าทายยังไง?
อาร์ตี้ – “ครั้งแรกที่เขาส่งบทมาให้อ่านคร่าวๆ มันน่าสนใจเราไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้ รู้สึกว่าถ้าเราไม่หนีจากบทเดิมๆ ก็จะไม่พัฒนาตัวเอง เลย ตัดสินใจรับเล่นอยากชาลเลนจ์ตัวเอง ถามว่า ยากไหม คือเราเปลี่ยนจากความยากให้เป็นเรื่องสนุก เพราะเราไม่เคยทำ ไม่เคยวิ่งหนีสัตว์ประหลาด เป็นสิ่งแปลกใหม่ เลยเป็นความสนุกความสุขมาก”
หายไปนาน ตอนนี้กลับมารับงานเหมือนเดิมแล้ว?
อาร์ตี้ – “ใช่ครับ พอได้กลับมาทำงานตรงนี้อีกครั้งเหมือนได้เริ่มใหม่ ช่วงที่หายไปเหมือนหา ตัวเองว่าชอบอะไร ซึ่งสุดท้ายเราก็ชอบในการแสดงรักในการแสดง แค่ใช้ชีวิตอยู่ในกองถ่ายก็มีความสุขแล้ว เหมือนเป็นอาชีพแรกที่เริ่มทำ ทำไปสักพักก็ คิดว่าไม่ใช่เปล่าวะ พอสุดท้ายหาคำตอบให้ตัวเอง ลองกลับมาอีก มันคงหนีไม่พ้นหนีตัวเองไม่ได้ เหมือน ถูกปลูกฝัง สิ่งที่ทำมาตั้งแต่เด็กนี่แหละ มันถูกกลืนกิน เรารักและมีความสุขกับมันโดยไม่รู้ตัว”
“ซึ่งช่วงที่หายไปก็ได้ลองอะไรใหม่ๆ ไปทำธุรกิจกับที่บ้าน แรกๆ สนุก แต่ทำไปทำมาทำไมเริ่มไม่สนุก มันเบื่อ ไม่มี ความสุข จนปลายปีที่แล้วมีซีรีส์เล็กๆ ติดต่อเข้ามาก็ลองไปเล่น คิวแรกคิวเดียวตอบตัวเองได้เลยว่า นี่แหละคือสิ่งที่ค้นพบแล้ว กูหนีมันไปทำไมวะเนี่ย (หัวเราะ)”
เสียดายช่วงพีกของตัวเองไหม อยู่ๆ หันหลังให้กับมันไป?
อาร์ตี้ – “ผมว่าทุกอย่างคงถูกกำหนดไว้แล้ว ณ ตอนนู้นย้อนกลับไปก็คงคิดแบบนี้ไม่ได้ ด้วยช่วงวัย เราทำงานตั้งแต่อายุ 17 อยู่กับมันมาจนจบมหา’ลัย ตอนนี้รู้แล้วว่าอะไรที่ทำแล้วมีความสุขทำไปเลยดีกว่า”
กลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกต่างจากครั้งแรกที่เริ่มเข้าวงการไหม?
อาร์ตี้ – “ต่างนะ กลับมาก็ต้องปรับสภาพ ค่อยๆ ปรับ มันก็เปลี่ยนไปด้วยหน้าตาของนักแสดงที่มาใหม่ พี่ๆ ทีมงานบางคนที่เราเคยเจอเขาก็มีอายุเยอะขึ้น มีเด็กใหม่ไม่ว่าจะเบื้องหน้า เบื้องหลัง ขนาดเราทุกวันนี้เลยเลข 3 มาแล้ว ทุกอย่างก็ต้องโตขึ้นแหละก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ก็สนุกกับมัน บางทีเหมือนเราเป็นเด็กเริ่มใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
คลื่นลูกใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ในขณะที่ช่วงหนึ่งเราหายไป มองว่าเราเสียโอกาสนั้นไหม?
อาร์ตี้ – “ส่วนตัวมองว่าเก่าไปใหม่มาเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คราวนี้เราจะอยู่ยังไงให้อยู่ไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องแข่งขันกับใคร แข่งขันกับ ตัวเองนี่แหละครับ”
แพสชั่นของตัวเองในวงการตอนนี้เป็นยังไง?
อาร์ตี้ – “มองว่าบทบาทไหนที่ไม่เคยเล่น อยากลองเล่นดู ประสบการณ์ที่ผ่านมา หล่อหลอมให้โตขึ้น อย่างทุกวันนี้มีโอกาสได้ไปทำเบื้องหลังด้วยก็สนุกไปอีกแบบผมเคยสนใจงานเบื้องหลังตั้งแต่สมัยเรียน เพราะเรียนเกี่ยวกับฟิล์มโดยตรง แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ จบมาจะ 10 ปีแล้วเพิ่งมีโอกาสใช้เมื่อ ต้นปี ต้องรื้อฟื้นใหม่ มันยิ่งตอกย้ำว่าไม่ว่าจะอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่แค่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในกองถ่ายก็มีความสุขแล้ว ก็ทำควบคู่กันไปทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ตอนนี้ ก็กลับมาเต็มตัว ไม่ยึดติดว่าอดีตเป็นยังไง สุดท้ายจะมีชื่อหรือไม่มีชื่อ แต่สิ่งที่ทำอยู่มันมีความสุขก็ทำมัน”
ชีวิตในวัย 30 กว่ามันตกผลึกอะไรบางอย่างแล้ว?
อาร์ตี้ – “ใช่ครับ แต่ผมคิดว่ามันยังตกผลึกไม่มากหรอก แต่ถ้าเทียบกับใน วัย 20 กับ 30 ตอนนี้มันก็คิดได้มากกว่าเมื่อวัย 20”
สิ่งผิดพลาดที่อยากแก้ไข?
อาร์ตี้ – “อันไหนไม่ดีเราก็ไม่ต้องทำ มองย้อนกลับไป จริงๆ เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ผมจะดื้อเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อก่อนอยู่ค่าย ด้วยเราเป็นเด็กต่างจังหวัด แรกๆ ก็ฟัง พออยู่ กรุงเทพฯนานๆ ก็เกิดเจนจัดรู้อะไรมากขึ้น แค่โกนหนวด ใส่ถุงเท้า เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ไม่ทำ ก็ตามวัยตอนนั้น ทำไมต้องโกนหนวด ตอนนั้นเราวัยรุ่น คิดแค่ว่าโรงเรียนกฎมันเยอะ พอออกมาแล้วบางทีอยากไว้ผมยาว ก็ต้องเข้าใจว่าหนังมันต้องมีความต่อเนื่อง ตัวละครต้องผมสั้น แต่ถ้าเรื่องใหญ่ๆ ไปสายไม่เคยทำ”
“ตอนนี้กลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ก็ทำปัจจุบันให้มันดีที่สุดครับ”
วีรนุช จันทำ