กรมควบคุมโรค เผยสาเหตุที่หลายจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคนเข้ารับวัคซีนน้อย คาดว่าเป็นเพราะไม่ใช่พื้นที่ระบาด ประชาชนคิดว่าไม่ได้รับความเสี่ยง จึงไม่ไปฉีดวัคซีน และเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ จึงได้เร่งรัดให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดโดยเร็ว
วันนี้ (20 พ.ย.64) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุสาเหตุที่กลุ่ม 10 จังหวัด ที่มีการฉีดวัคซีนน้อย ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย นครพนม หนองบัวลำภู บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ ยโสธร แม่ฮ่องสอน สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และชัยภูมิ
โดยเฉลี่ยจังหวัดเหล่านี้ มีประชาชนเข้ารับวัคซีน ร้อยละ 40-46 เท่านั้น ซึ่งการรับวัคซีนน้อย ส่งผลให้บางจังหวัดในกลุ่มนี้เกิดคลัสเตอร์โควิดขึ้นมา อย่างเช่น ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งสาเหตุที่ประชาชนข้ารับวัคซีนโควิดน้อย คาดว่าเป็นเพราะอยู่ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดของโควิดไม่รุนแรง ทำให้บางส่วนคิดว่าความเสี่ยงต่ำ จึงยังไม่รับวัคซีน และเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ
ภาพจาก สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีประชาชนทั่วประมาณ 11 ล้านคนที่ยังไม่เข้ารับวัคซีน ทั้งกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ระบาด กลุ่มอยู่พื้นที่ห่างไกล และกลุ่มที่ปฏิเสธวัคซีนโดยมีเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ ซึ่งเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
แต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขในการระดมบุคลากรในภาคส่วนต่างๆ เข้าไปค้นหากลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดเคาะประตูบ้านเพื่อทำความเข้าใจ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมทั้งต้องกำชับผู้ตรวจจังหวัด ให้ติดตามการฉีดวัคซีนว่าเพียงพอหรือไม่ และมีจังหวัดไหนต้องการวัคซีนเพิ่มเติม หลังจากนี้ เพื่อให้การฉีดวัคซีนครบตามเป้ามายฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนนี้
ภาพจาก AFP